ดินแดนอ้วนพี ตอนที่ 9 -

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

ชาวพรรคกระยาจกทั้งหมด รวมทั้งโรบิน อู๊ด ต่างเคลื่อนย้ายตัวเองมายังที่ตั้งของพรรคโดยไม่ต้องพึ่งวิชาเคลื่อนย้ายสุกรของท่านผู้เฒ่าตาขาว


สถานที่นั้น เป็นอารามร้าง รูปเคารพสุกรเทพต่างๆ ประดิษฐานเรียงรายไปตามวิหารร้าง ที่ตกแต่งฝาผนังด้วยภาพจิตรกรรมสีน้ำ แต่ทั้งหมดนี้ดูเก่าคร่ำคร่า รูปเคารพสุกรเทพ แม้จะดูรู้ว่าเคยเป็นสีทองมาก่อน แต่บัดนี้กลับไม่ค่อยเหลือความเป็นสีทองเท่าไหร่แล้ว ภาพจิตรกรรมก็เช่นกัน สีของมันดูซีดจาง แต่ความเก่านี้กลับทำให้เกิดบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอย่างน่าประหลาด โรบิน อู๊ดดื่มด่ำไปกับบรรยากาศนั้น


ตรงกลางผนังด้านหนึ่ง ตรงข้ามกับประตูทางเข้า มีเก้าอี้แบบไม่มีพนักพิงตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ข้างเก้าอี้ตัวนั้น มีรูปเคารพสุกรเทพองค์หนึ่งอยู่ด้านขวาของเก้าอี้ เทพองค์นี้คือ "เทพหมูชวนฝัน" อันเป็นเทพที่ชาวพรรคกระยาจกต่างบูชา เพราะพวกเขาเชื่อว่าตนอยู่ได้ด้วยความฝัน เทพองค์นี้เป็นเทพที่สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่สักการะบูชานอนฝันดี และทำให้ฝันเป็นจริง เป็นรูปเคารพในท่าหมูนอนคว่ำ ก้นโด่ง หลับตาพริ้ม ปากยิ้มมีความสุข


หมูขอทานทุกตัวนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง โดยมีโรบิน อู๊ดกับเจ้าตัวเล็กยืนอยู่ต่อหน้าเก้าอี้ตัวเล็กๆ นั้น ที่ตอนนี้หมูขอทานตัวหนึ่งได้ขึ้นไปนั่งเล่นอยู่ ไม่ใช่อื่นไกล ท่านผู้เฒ่าตาขาวนั่นเอง


"จาเล่ก้ะอี้โดตี" เขาพยายามจะบอกว่า จะเล่นเก้าอี้ดนตรี
"ลงมาเถิดท่านผู้เฒ่า เมื่อกี๊ท่านก็เล่นโยกย้ายไปแล้ว" หมูขอทานตัวเดิมเดินไปพาท่านผู้เฒ่ามานั่งข้างๆ ตน
"จาเล่ก้ะอี้โดตีอ้ะ ฮอลี่ อู๊" เขายังคงยืนยันคำเดิม
"เอานี่ไปเล่นก่อนนะ" ฮอลลี่ อู๊ดยื่นตะเกียบหักๆ ข้างหนึ่งให้ท่านผู้เฒ่า ซึ่งนับว่าได้ผลดีเกินคาด ท่านผู้เฒ่าหันไปเล่นตะเกียบอย่างเพลิดเพลิน
"ฮอลลี่ อู๊ด ท่านชื่อฮอลลี่ อู๊ดเหรอ" โรบิน อู๊ดถามขึ้น
"ใช่ นั่นเป็นชื่อของข้า"
"ที่นี่คือที่ตั้งของพรรคกระยาจกหรือ ข้าเดินทางไปทั่วดินแดนอ้วนพี แต่ข้าเพิ่งจะเคยเข้ามาในพรรคกระยาจกเป็นครั้งแรก" โรบิน อู๊ดถามต่อ
"พรรคของเราเพิ่งก่อตั้งมาได้ไม่นาน ข้าจะเล่าประวัติของพรรคให้เจ้าฟังนะ …" แล้วฮอลลี่ อู๊ดก็เล่าว่า...


เมื่อก่อนนั้น สมัยที่พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าขึ้นเป็นพระราชาใหม่ๆ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองอย่างยุติธรรม พัฒนาบ้านเมืองไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจของดินแดนอ้วนพีก็โตวันโตคืน ชาวพรรคกระยาจกที่เมื่อก่อนนี้เป็นนักธุรกิจใหญ่ก็สามารถทำเงินได้มากมายในแต่ละวัน


แต่แล้ววันหนึ่ง พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าก็รับสั่งให้ลดค่าเงินกีบของดินแดนอ้วนพี ทำให้ระบบเศรษฐกิจของดินแดนอ้วนพีผันผวน ชาวต่างดินแดนก็ไม่กล้าเข้ามาลงทุนด้วย เพราะขาดความน่าเชื่อถือทางการเงิน ชาวพรรคกระยาจกที่เคยร่ำรวยก็ถึงคราวตกอับ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจของตนได้ จึงจำต้องเลิกกิจการไป


เมื่อเลิกกิจการแล้ว ก็เป็นหนี้เป็นสิน เพราะได้ไปกู้เงินมาพยุงธุรกิจของตน จากพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าในอัตราดอกเบี้ยที่แพงมาก


เหตุการณ์ และสถานะทางการเงินของชาวอ้วนพี รวมไปถึงชาวพรรคก็เริ่มย่ำแย่ จนต้องอพยพออกมาจากเมืองหลวง แล้วพากันลงมาอยู่ทางใต้ในเมืองร้างแห่งนี้ เดิมทีตั้งเป็น "ชุมชนหมูเคยรวย" ขึ้นมา หวังจะทำธุรกิจเล็กๆ ที่พอจะช่วยกันทำได้ เป็นการหาเลี้ยงตัวเอง แต่กลับต้องมาเจอกับสิ่งเลวร้ายซ้ำสอง เพราะว่าพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าได้ส่งสามทหารหมูเข้ามากดขี่โดยใช้กำลังทหาร ให้ชาวพรรคต้องออกไปขอทานตามหัวเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ไม่ก็ให้ไปขายดอกกุหลาบตามร้านอาหาร เงินที่ได้มาจากการขอทาน กับขายดอกกุหลาบก็ต้องส่งให้กับพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า เป็นการใช้หนี้ที่กู้มา ถ้าไม่ทำก็จะถูกพวกทหารจับไปทรมาน


จนกระทั่ง "อู๊ด อู๊ด" หรือที่เรียกกันว่ายาจกอู๊ด เกิดมีความคิดขึ้นในวันพระจันทร์เต็มดวงเมื่อเดือนนี้ของปีที่แล้ว ว่าจะต้องขับไล่พวกสามทหารหมูออกไปให้ได้ ชาวพรรคกระยาจกที่ตอนนั้นยังเป็นแค่ขอทานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่มีจำนวนมากกว่าทหารหมู จึงลุกฮือขึ้นขับไล่ทหารออกจากเมืองไป แล้วสถาปนาชุมชนหมูเคยรวยเสียใหม่ เป็นพรรคกระยาจก โดยมีท่านยาจกอู๊ดเป็นประมุขตัวแรก และตัวเดียวของพรรคตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


หนึ่งปี ตั้งแต่ที่ท่านยาจกอู๊ดได้ดำรงตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจก ท่านก็ได้คิดค้นวิชาการต่อสู้วิชาหนึ่ง ไว้ต่อสู้กับพวกที่จะมากดขี่ เรียกวิชานี้ว่า "วิชาไม้ตีสุกรนอนอืด" นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมท่านประมุขจึงต้องมี "ไม้เท้าตีสุกร" ไว้เป็นสัญลักษณ์ประจำตำแหน่ง


ท่านผู้เฒ่าตาขาวยังคงใช้ตะเกียบสอดเข้าไปในรูจมูกของฮอลลี่ อู๊ด ตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่าเรื่องราวของพรรคกระยาจก จนกระทั่งเล่ามาถึงตรงนี้ ทำให้เขาเล่าติดๆ ขัดๆ เสียเวลาไปมากพอสมควร


เมื่อฮอลลี่ อู๊ดดุท่านผู้เฒ่า ท่านผู้เฒ่าก็นั่งลงดิ้นๆ อันเป็นท่าน้อยใจของเขา เขาจะทำแบบนี้ทุกครั้งที่ถูกดุ


"… และในคืนวันพรุ่งนี้ …" เขาเริ่มเล่าต่อไป เมื่อท่านผู้เฒ่าตาขาวเลิกขัดจังหวะแล้ว
"… ก็เป็นวันครบรอบวันสถาปนาพรรคกระยาจก ทุกๆ 1 ปีเราจะทำการมอบตำแหน่งประมุขพรรคให้กับหมูที่เหมาะสม …" เขาหยุดพูด ดวงตาจ้องไปที่โรบิน อู๊ดที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ
"… และผู้ที่ท่านประมุขเลือกให้เป็นประมุขพรรคตัวใหม่ ก็คือท่าน โรบิน อู๊ด"
" … " โรบิน อู๊ดอ้าปากค้างด้วยความตะลึงงัน
"ท่านโรบิน อู๊ด ท่านได้ออกปล้น และนำทรัพย์สินจากการปล้นไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องตระกูลอู๊ดผู้ยากไร้ ชาวอ้วนพีทั้งแผ่นดินต่างรู้ดี และเพราะความดีที่ท่านได้ช่วยเหลือพี่น้องผู้ยากไร้ ไม่มีใครในพรรคของเราทำได้อย่างท่านเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมท่านประมุขจึงเลือกท่าน โรบิน อู๊ด … ขอบคุณเทพหมูชวนฝัน ที่ทำให้ฝันของท่านประมุขเป็นจริงด้วยการส่งท่านมาทันเวลา"
"ขอให้ท่านมาเป็นประมุขตัวต่อไปของพวกเรา ตามที่ท่านประมุขต้องการด้วย" พี่น้องชาวพรรคกระยาจกลุกจากที่นั่ง แล้วคุกเข่าขอร้องโรบิน อู๊ดให้รับตำแหน่ง


สิ้นเสียง ทุกสิ่งเงียบลงอีกครั้ง จะมีก็แต่เสียงของท่านผู้เฒ่าตาขาวที่ยังน้อยใจ นั่งร้องไห้ สลับกับเสียงเคาะตะเกียบกับพื้น


แต่เสียงที่โรบิน อู๊ดได้ยิน กลับเป็นเสียงหัวใจของตัวเองเต้น รู้สึกว่ามันช่างเร็วเหลือเกิน ในการที่รับตำแหน่งประมุขพรรค เขาอยากจะใช้ความเงียบจากภายนอกมาทำให้จิตใจของเขาสงบ แต่ความเงียบนั้น เป็นความเงียบที่น่าอึดอัดอย่างประหลาด สายตานับร้อยๆ คู่จ้องมองมาที่เขา เป็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง อยากจะให้เขาได้มาเป็นประมุขตัวใหม่ของพรรคกระยาจก


แต่ในใจของเขา กลับรู้สึกตรงกันข้าม …

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter