´Ô¹á´¹Íéǹ¾Õ µÍ¹·Õè 11 -

à¢Õ¹â´Â
: º.ãºäÁéÊÕà¢ÕÂÇ (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

แดดละไมยามเช้าในวันแรกของโรบิน อู๊ด ในฐานะประมุขตัวใหม่แห่งพรรคกระยาจก ก็ได้กลายเป็นแดดยามสาย ที่เริ่มแผ่กว้างด้วยแสงตะวันที่ค่อยๆ ร้อนแรงขึ้น แต่ยังคงความละมุนละไมไว้ในตัวเองอยู่ เหมือนกับยังเกรงกริ่งที่จะแผดเผาแผ่นดินด้วยแสงทั้งหมดของมัน


อดีตประมุขอย่างอู๊ด อู๊ด ก็ยังอ้อยอิ่งราวกับแสงนั้น กว่าหนึ่งปีมาแล้วที่เขาได้มาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นชุมชนหมูเคยรวย จนกระทั่งเขาและพี่น้องทุกตัวได้ก่อตั้งพรรคกระยาจกขึ้นมา หนึ่งปีที่เขาดำรงตำแหน่งประมุขพรรคที่เขาก่อตั้ง สายตาของเขายังคงอาลัย


"กว่าหนึ่งปีมานี้ ดูเหมือนว่าจะนานจนข้าไม่อยากจากที่นี่ และพี่น้องของข้าไป …" อู๊ด อู๊ดเอ่ยขึ้น ในขณะที่สายตาทอดอาลัยของเขามองไปยังขอบฟ้า จอมโจรอ้วนพีซึ่งบัดนี้เป็นประมุขต่อจากเขา นั่งฟังอยู่ข้างๆ สายตาจับจ้องไปยังที่เดียวกัน

"… และกว่าหนึ่งปีมานี้ ข้าพร่ำฝึกวิชาไม้ตีสุกรนอนอืด จนข้าเริ่มมั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่เมื่อข้าได้พบกับท่าน โรบิน อู๊ด ข้ากลับไม่เห็นว่าวิชานี้จะก้าวหน้าไปสักเท่าใด"
"ข้าเสียใจ ที่ทำให้ท่านรู้สึกเช่นนั้น" โรบิน อู๊ดกล่าวคำขอโทษ
"ข้ายังฝึกไม่พอจริงๆ หนึ่งปีกับการฝึกฝนเพียงตัวเดียวไม่สามารถทำให้วิชาไม้ตีสุกรนอนอืดของข้าพัฒนาไปมากกว่านี้ได้ และเรื่องนี้ข้าได้ตัดสินใจแล้ว ข้าจะต้องออกเดินทางไปทั่วหล้า เพื่อฝึกฝนตนเอง"
"แล้วท่านจะไปเมื่อไหร่หรือ" โรบิน อู๊ดถาม
"ข้าจะต้องออกเดินทางเดี๋ยวนี้ เพราะในการต่อสู้ ช้าเพียงก้าวเดียว ย่อมหมายถึงชีวิต"
"เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าเห็นทีจะต้องออกเดินทางต่อบ้างแล้ว ภารกิจของข้าก็ยังไม่เสร็จ"
"ท่านจะไปที่ไหน"
"บ้านของไทธนา อู๊ด" โรบิน อู๊ดตอบ

สรรพสำเนียงแห่งความอาลัย ได้จมตัวเองไว้ในความรู้สึกของเหล่าพี่น้องพรรคกระยาจก เพราะในวันที่พรรคได้ประมุขตัวใหม่ ก็ต้องเป็นวันที่ทั้งประมุขและอดีตประมุขออกเดินทางไปจากพรรค


อู๊ด อู๊ดออกเดินทางไปเพียงลำพัง พี่น้องจำนวนมากอาสาจะตามไปด้วย แต่เขาตั้งใจจะออกฝึกวิชาไปตามสำนักต่างๆ ทั่วดินแดนอ้วนพี การมีผู้ติดตามไปด้วยนั้นดูจะไม่ใช่สิ่งดีนัก เขาจึงจากไปเพียงตัวเดียว โดยเดินทางไปทางเหนือ


เมื่อส่งอู๊ด อู๊ดจนลับสายตาแล้ว โรบิน อู๊ดก็แบกถุงก๊อบแก๊บสีดำใบโตใบนั้นขึ้นบ่า เสียงกรอบ … แกรบ … ของมันดังไปทั่วบริเวณ เขาบอกพี่น้องยาจกว่าจะรีบกลับ เขาไม่ต้องการให้ใครไปด้วย เพราะจะทำให้การเดินทางช้าลง และเขาก็คุ้นเคยกับการเดินทางเพียงลำพังมากกว่า เขาจึงจากพรรคมากับเจ้าตัวเล็ก ลูกหมาตัวน้อยเพื่อนใหม่ของเขา


"เราไปกันเถอะ เจ้าตัวเล็ก ได้เวลาสะสางภารกิจที่คั่งค้างให้สำเร็จลุล่วง …" เขาบอกเจ้าตัวเล็ก ก่อนจะตะโกนก้อง เพื่อบอกพี่น้องว่า
"… ข้าจะกลับมา เมื่อภารกิจนี้เสร็จสิ้น ข้าสัญญาว่าจะไปไม่นาน ฮอลลี่ ในระหว่างนี้ ขอให้เจ้าช่วยดูแลพี่น้องของเราด้วย"
"ข้าจะทำหน้าที่ที่ท่านมอบหมายให้ดีที่สุด" ฮอลลี่ อู๊ดตอบรับ

การเดินทางของโรบิน อู๊ดเป็นไปอย่างราบรื่น จะมีขลุกขลักก็แค่ลำธารเล็กๆ มากมายที่เขาจะต้องข้ามผ่านไป เขาต้องอุ้มเจ้าตัวเล็กข้ามน้ำอยู่หลายครั้ง จนในที่สุด เขาก็ได้พบกับหมู่บ้านหนึ่ง


สภาพของหมู่บ้านนี้ดูไม่ต่างกับเมืองร้างอันเป็นที่ตั้งของพรรคกระยาจกมากนัก ผิดกันตรงที่ที่นี่เป็นเมืองแบบชนบท ยังคงหาเลี้ยงชีพด้วยเกษตรกรรม แต่เมื่อเห็นเรือกสวนไร่นาที่ดูเหมือนจะเป็นที่ดินเพียงผืนเดียวของพวกเขาแล้ว จะพบเพียงที่ดินว่างเปล่า หาได้มีพืชผลชนิดใดๆ ดินนั้นก็แตกระแหงจนไม่มีวี่แววว่าจะสามารถปลูกอะไรได้อีก นอกจากความยากแค้นในหมู่บ้าน


กรอบ … แกรบ … กรอบ … แกรบ …


เขาเดินเข้าไปในหมู่บ้าน สภาพบ้านเรือนเมื่อมองใกล้ๆ ดูแออัด กลิ่นอับๆ ชื้นๆ โชยมาปะทะจมูกกลมโตของเขา หลังคาสังกะสีต่างเกยกัน นี่ถ้าฝนตก น้ำฝนคงต้องเล่นอยู่บนหลังคาบ้านแล้วบ้านเล่า ก่อนจะหล่นลงสู่พื้น และถูกดินแตกระแหงนั้นกลืนมันเข้าไปอย่างไม่รู้จักอิ่ม บางบ้านไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นดิน หากแต่ตั้งอยู่บนผืนน้ำที่ดำสนิท ราวกับใครเทสีดำลงไป


"แบ๊กๆๆ" เสียงเจ้าตัวเล็กเห่าหมาตัวหนึ่ง ซึ่งใหญ่กว่ามันหลายเท่านัก ข้างหลังหมาตัวนั้น ปรากฏร่างชายหนุ่มตัวหนึ่ง เขาดูผอมเกินกว่าจะเป็นชาวอ้วนพี เขากำลังดึงหมาที่ดูผอมโซไม่แพ้กันไว้


‘นี่พวกเขายากแค้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ’ โรบิน อู๊ดนึกในใจ
"เจ้าบิ๊ก หยุดก่อน …" เขาดุหมาของเขา และถามโรบิน อู๊ดว่า
"… เจ้าเป็นใคร"
"ข้าคือจอมโจรโรบิน อู๊ด มิตรแท้แห่งผู้ยากไร้"
"เจ้ามาทำไม ที่นี่ไม่มีอะไรให้เจ้าปล้นหรอกนะ" ชายหนุ่มทำท่าเหมือนจะปล่อยเจ้าบิ๊กออกจากมือ
"ช้าก่อน ข้าไม่ได้มาปล้นสิ่งใดจากพวกเจ้า ข้าเอาทรัพย์สินมาให้ไทธนา อู๊ด และชาวบ้านที่นี่ เจ้าพอจะรู้จักบ้านของไทธนา อู๊ดบ้างไหม"
"อ๋อ มาหาผู้ใหญ่บ้าน ถ้าอย่างนั้น ตามข้ามา" เสียงของเขาลดความหวาดระแวงลงไป


บ้านของไทธนา อู๊ดดูไม่ต่างอะไรกับบ้านหลังอื่นๆ มากนัก เพียงแต่ไม่มีฝาผนังด้านหน้าเท่านั้น โรบิน อู๊ดจึงพาเจ้าตัวเล็กเข้าบ้านของไทธนา อู๊ดได้โดยไม่ต้องเปิดประตู


ไทธนา อู๊ด แม้จะเป็นชาวอ้วนพี แต่ร่างกายของเขากลับซูบผอม ดูไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มตัวนั้น แก้มเขาตอบบุ๋ม ดวงตาโหล มีรอยคล้ำใต้ขอบตา เหมือนหมูอดนอน ซี่โครงหมูของเขาดูเป็นโครงร่างกระดูกชัดเจน แขนขาดูไม่มีเรี่ยวแรง สีผิวที่ดูซีดเผือกของเขาบอกถึงความอดอยากที่เกิดขึ้น โรบิน อู๊ดรู้สึกสงสารเขาเหลือเกิน


เขาวางถุงก๊อบแก๊บนั้นลง เปิดถุงออก เผยให้เห็นทรัพย์สินมากมายในถุงนั้น


"ข้าคือโรบิน อู๊ด มิตรแท้แห่งผู้ยากไร้ ข้าขอมอบเงินทอง และบริวารทั้งหลายเหล่านี้ให้แก่ท่านและชาวบ้าน ขอท่านและชาวบ้านจงรับเงินทอง และบริวารทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของท่านและชาวบ้านด้วยเถิด"

"ท่านโรบิน อู๊ด ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านในวันนี้ เพราะว่าท่านเท่านั้นที่จะช่วยเหลือชาวดินแดนอ้วนพีได้"
"ข้าเต็มใจช่วยเสมอ และบัดนี้ ข้าได้นำทรัพย์สินเงินทองมาให้แก่ท่านแล้ว เห็นที ข้าจะต้องรีบไป เพราะยังมีพี่น้องอีกมากมายที่ข้าจะต้องช่วยเหลือ" โรบิน อู๊ดลุกขึ้น เตรียมจากไป หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น
"เดี๋ยวสิท่านโรบิน อู๊ด ข้าคิดว่า ถ้าท่านได้ฟังเรื่องราวอะไรบางอย่าง ท่านจะสามารถช่วยเหลือชาวอ้วนพีได้ทั้งหมด ขอเพียงท่านอยู่ และฟังข้าก่อน" ไทธนา อู๊ดรั้งตัวโรบิน อู๊ดไว้


จอมโจรอ้วนพีสงสัยในคำพูดนั้น จึงนั่งลงอีกครั้ง โดยมีเจ้าตัวเล็กอยู่ข้างๆ เช่นเดิม และไทธนา อู๊ดก็เล่าให้เขาฟังว่า


แรกเริ่มเดิมทีนั้น เขาเป็นหมูชาววังมาก่อน เป็นผู้ตรวจราชการในวัง จึงมีโอกาสใกล้ชิดกับพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงครองราชย์ใหม่ๆ นั้น พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองอย่างเป็นธรรม ไม่มีความเดือดร้อนใดๆ เกิดขึ้นในแผ่นดินที่พระองค์ทรงเป็นพระราชา


แต่แล้วคืนหนึ่ง เขาอยากเข้าห้องน้ำตอนกลางดึก จึงออกจากห้องนอน เดินไปตามทางเดินชั้นบนสุดของพระราชวังอืดบวมใหญ่ ผ่านห้องบรรทมของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า และแอบเห็นหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งจากดินแดนขนหางฟู อยู่ในห้องบรรทม เขาสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าจึงทรงมีธุระกลางดึกกับหมาจิ้งจอกตัวนั้น แต่ก็คิดว่าเป็นเรื่องส่วนพระองค์ จึงไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย


และจากวันนั้นมา พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าก็เปลี่ยนไป เหมือนเป็นหมูคนละตัว จากที่ทรงเคยเป็นพระราชาที่มีพระราชหฤทัยงดงาม กลับกลายเป็นผู้หวังในลาภ ยศ สรรเสริญ ใครก็ตามที่คัดค้านพระองค์ พระองค์จะขับไล่ออกจากพระราชวัง เศรษฐกิจของดินแดนอ้วนพีก็อยู่ในขั้นวิกฤต จนต้องนำเอาเงินท้องพระคลังออกมาใช้จ่าย และเก็บภาษีในอัตราที่แพงจากชาวอ้วนพี ทำให้ชาวอ้วนพีเดือดร้อนกันทั่วหน้า


"… หมู่บ้านนี้ก็เช่นกัน ก่อนนั้นพวกเราเคยทำสวนแครอท ส่งออกไปยังดินแดนหูยาว อันเป็นดินแดนของพวกกระต่าย รายได้ก็พออยู่พอกิน แต่ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างที่ท่านเห็น ท่านโรบิน อู๊ด …" ไทธนา อู๊ดยังเล่าต่อไป


"… ข้าออกจากวังมาก็เพื่อมาช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านของข้า แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ขอบคุณท่านมาก ที่ท่านนำทรัพย์สินมาให้พวกเรา ก็คงพอประทังชีวิตไปได้สักระยะ เชื่อข้าเถอะท่านโรบิน อู๊ด ท่านน่าจะไปสืบหาว่าหมาจิ้งจอกตัวนั้นเป็นใคร ข้าคิดว่ามันจะต้องเกี่ยวกับการที่พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบ เปลี่ยนไปเป็นหมูคนละตัวแน่นอน" ไทธนา อู๊ดกล่าวสรุป


"ท่านหมายความว่า ที่ดินแดนอ้วนพีมีผู้ยากไร้มากมายเช่นทุกวันนี้ เป็นเพราะฝีมือของเจ้าจิ้งจอกตัวนั้นหรือ" โรบิน อู๊ดถามย้ำเพื่อความแน่ใจ


"ใช่แล้ว การแก้ปัญหาต้องแก้ที่สาเหตุ ถ้าท่านแก้ไขต้นเหตุของปัญหาความยากจนของดินแดนอ้วนพีได้ ก็เท่ากับว่าท่านจะได้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ทั้งแผ่นดินเลยทีเดียว"
"นั่นเป็นเป้าหมายของข้าอยู่แล้ว ท่านไทธนา อู๊ด ข้าต้องไปสืบหาความจริงให้ได้ว่ามันเป็นเช่นไรกันแน่ ขอบคุณท่านมาก"


โรบิน อู๊ดลุกขึ้น หันไปปลุกเจ้าตัวเล็กที่นั่งฟังจนหลับไป


"เราไปกันเถอะ เจ้าตัวเล็ก ภารกิจสุดท้ายกำลังรอเราอยู่"

พี่น้องยาจกดีใจที่ประมุขของตนกลับมา ฮอลลี่ อู๊ดดูแลพรรคเป็นอย่างดีในระหว่างที่โรบิน อู๊ดไม่อยู่


เมื่อพวกเขาได้รู้ถึงเรื่องราวที่ไทธนา อู๊ดเล่าให้กับโรบิน อู๊ดฟัง เหล่าพี่น้องทุกตัวก็พร้อมที่จะช่วยเพื่อนผู้ยากไร้ทุกตัวในดินแดนอ้วนพี พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับภารกิจครั้งนี้ ภารกิจที่มีความอยู่รอดของดินแดนอ้วนพี่ที่เขารักเป็นเดิมพัน


ดังนั้น เมื่อเตรียมตัวออกเดินทางเรียบร้อยแล้ว โรบิน อู๊ด, ฮอลลี่ อู๊ด, เจ้าตัวเล็ก และพี่น้องชาวพรรคกระยากจก รวมทั้งท่านผู้เฒ่าตาขาวก็ออกเดินทางไปยังเมืองหลวงในเช้าวันรุ่งขึ้น

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter