ดินแดนอ้วนพี ตอนที่ 15 -

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

บ่ายแล้ว เหล่าหมูออฟฟิศต่างกลับไปทำงานของตัวเองต่อไป ทำให้ถนนหนทางได้บรรเทาความคับคั่งของมันลง เหลือเพียงเกี้ยวส่วนตัวไม่มากนัก สลับกับเกี้ยวประจำทางสายต่างๆ ที่หมูแบกเกี้ยวยังคงแบกรับหมูโดยสารตามป้ายจอดเกี้ยวต่างๆ ทั่วเมืองหลวง


เจ้าตัวเล็กกำลังพยายามใช้ฟันเล็กๆ ของมันฉีกเนื้อชิ้นนั้นเข้าปาก หลังจากที่มันคาบวิ่งไปทั่วเมืองแล้ว เมื่อท่านผู้เฒ่าตาขาวเห็นเช่นนั้น ก็ทำท่าจะนั่งกินเป็นเพื่อนด้วยความหวังดี กลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะเหงา


"แง่ง …." เจ้าตัวเล็กส่งเสียงคำรามที่เหมือนจะน่ากลัวออกมา
"ดีใจล่ะฉิ มีเพื่อกีดั้วอ้ะ" ท่านผู้เฒ่าพูดกับเจ้าตัวเล็ก แต่มันไม่เข้าใจว่าเขาพูดว่า ดีใจล่ะสิ มีเพื่อนกินด้วย มันคำรามอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
"แง่ง …"
"ท่านผู้เฒ่า … กินไม่ได้" ฮอลลี่ อู๊ดคว้าตัวท่านผู้เฒ่าตาขาวไว้ เจ้าตัวเล็กจึงหยุดคำรามแล้วหันไปสนใจเนื้อชิ้นนั้นต่อ
"ฮอลลี่ เราจะตามหาพี่โรบินได้ยังไง" แจมมี่ อู๊ดถามขึ้น
"ข้าจะรวบรวมพี่น้องออกหาข่าว ขอประมุขหญิงอย่าเป็นห่วงอันใดเลย ข้าคิดว่า …"


ยังไม่ทันที่ฮอลลี่ อู๊ดจะพูดจบ ทหารหมูกลุ่มหนึ่งก็แบกป้ายจำนวนหนึ่งเดินผ่านมา และปักป้ายหนึ่งในจำนวนนั้นตรงบริเวณสี่แยกที่พี่น้องพรรคกระยาจกยืนอยู่


"อยากปักป้ายแขวนขึ้นแผ่นเท่าฝา ประกาศให้หมูรู้ว่าดินแดนนี้หนามีโจรถูกจับ จะมีโทษใดที่เขาควรจะได้รับ เป็นโจรก็ต้องถูกจับ เขาโดนเราจับขังคุกใต้ดิน …" ทหารหมูตัวหนึ่งร้องเพลงขณะปักป้าย


เมื่อทหารหมูเดินจากไปแล้ว พร้อมกับเสียงเพลงๆ นั้น ฮอลลี่ อู๊ดก็พูดต่อจากที่ค้างไว้


"… ข้าคิดว่า เราควรไปดูป้ายนั้นกันก่อนดีกว่า เผื่อจะได้ข่าวอะไรดีๆ"
และทั้งหมดก็เดินอุ้ยอ้ายไปยังป้ายนั้น ก่อนจะพบข้อความบนป้ายประกาศ เขียนว่า
 


ถึงชาวอ้วนพี


เนื่องด้วย พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า ได้จับกุมโรบิน อู๊ด จอมโจรอ้วนพีได้แล้ว เป็นการจับหมูเป็นๆ ไม่ใช่การจับแพะแต่อย่างใด เวลานี้โรบิน อู๊ดถูกจับขังอยู่ในคุกใต้ดินในพระราชังอืดบวมใหญ่ และเช้าวันพรุ่งนี้ ณ สนามกีฬาอ้วนพี จะจัดงาน "ชุมนุมเชือดสุกร" เป็นการเชือดหมูให้หมูดู เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชนชาวอ้วนพีสืบต่อไป


ดังนั้น ทางการจึงขอเชิญชาวอ้วนพีทุกตัวเข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นสักขีพยานในการเชือด


พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า



ไม่เพียงแต่ป้ายประกาศเท่านั้น พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้ายังได้ส่งเทียบเชิญไปให้แก่นักธุรกิจใหญ่ที่เคยถูกโรบิน อู๊ดบุกปล้นด้วย


จากรายงานของทางการระบุว่า โรบิน อู๊ดปล้นมาแล้วมากมาย โดยที่ทุกครั้ง เขาจะทิ้งรอยเท้าในกะบะดินเหนียว และอนุโมทนาบัตรไว้เป็นหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทพิราบสื่อสารสีเหลือง … ชีวิตเหนือระดับ, บริษัทพิราบสื่อสารสีน้ำเงิน … ง่ายสำหรับคุณ และบริษัทพิราบสื่อสารสีส้ม … อนาคตสดใส อนาคตสีส้ม สามบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการการสื่อสารของดินแดนอ้วนพี ที่กำลังแข่งขันทางธุรกิจอย่างเอาเป็นเอาตายในเรื่องของเครือข่าย ค่าบริการ และบริการเสริมอื่นๆ


ไม่เว้นแม้กระทั่งบริษัทในเครือสุกรเจริญพันธุ์ ที่เพาะพันธุ์สัตว์น้อยใหญ่ ทั้งไก่ เป็ด ปลา รวมไปถึงร้านค้าชื่อ "เจ็ดสิบเอ็ด" ที่เปิดทั้งวันทั้งคืนในลักษณะแฟรนไชส์ พบเห็นทั่วไปในดินแดนอ้วนพี โดยเฉพาะในเมืองหลวงที่มีร้านเหล่านี้ชุกชุมเหมือนดอกเห็ด ชาวอ้วนพีจำนวนมากคุ้นเคยกับสำเนียงพูดของพนักงานในร้านที่ว่า


"รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ"


บางครั้งอาจจะมีใครเกิดอยากกินซาลาเปาขึ้นมาจริงๆ แต่เมื่อบอกพนักงานว่า


"รับ … ขอเป็นไส้ครีมละกัน"


พนักงานจะทำหน้าปั้นยาก ทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่จะเดินไปหยิบซาลาเปาในตู้อย่างงงๆ คิดในใจว่า วันนี้ต้องเกิดวิปโยคขึ้นแน่ๆ


หรือจะเป็นบริษัทบะหมี่เกือบสำเร็จรูป โรบิน อู๊ดก็ปล้นมาแล้ว รายงานของทางการเมื่อปีที่แล้ว ระบุไว้ว่า เจ้าของบริษัทผู้ผลิตบะหมี่เกือบสำเร็จรูปตราปาป้า ได้เข้าแจ้งความว่าโรบิน อู๊ดบุกปล้นบริษัทของตนโดยได้ปล้นเอาบะหมี่เกือบสำเร็จรูปรสต่างๆ กว่า 50 รส ที่บรรจุในซองกระดาษมัดด้วยเชือกฟาง พร้อมด้วยเครื่องปรุงและเครื่องเคียงเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้เอาทรัพย์สินไปแม้แต่สตางค์แดงเดียว และทิ้งรอยเท้าและอนุโมทนาบัตรไว้เป็นหลักฐาน ท้ายอนุโมทนาบัตร เขาได้เขียนเอาไว้ว่า


"บะหมี่ของท่านถูกปากชาวอ้วนพีมากๆ เพราะมีหลายรสให้เลือก ไม่ซ้ำซากจำเจ ขอบคุณที่ท่านทำให้ชาวอ้วนพีมีบะหมี่อร่อยๆ กิน แต่ลดปริมาณผงชูรสสักหน่อยก็จะดีมิใช่น้อย"


ยังไม่นับรวมเจ้าทุกข์รายอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ที่ร่ำรวยในดินแดนอ้วนพีทั้งสิ้น

"เราต้องไปช่วยพี่โรบิน" น้ำเสียงของแจมมี่ อู๊ดแผ่วเบาเหมือนจะหมดหวัง เมื่ออ่านข้อความบนป้ายเสร็จแล้ว
"คืนนี้ ข้ากับเหล่าพี่น้องจะบุกเข้าไปในวัง" ฮอลลี่ อู๊ดตอบ
"จะไปวาที่สูๆ อ้ะเหรอ" ท่านผู้เฒ่าดีใจที่จะได้ไปเที่ยววังสูงๆ ที่เขาเห็นก่อนเข้าเมือง
"ใช่แล้ว ท่านผู้เฒ่า เราจะไปเล่นวิ่งไล่จับกับทหารในวัง"
"ข้าจะเล่วี่ไล่จะ ข้าจะเล่วี่ไล่จะ …" ท่านผู้เฒ่าตาขาวร้องซ้ำไปมา กึ่งเดินกึ่งกระโดดไปรอบๆ กลุ่มพี่น้อง
แจมมี่ อู๊ดเป็นห่วงโรบิน อู๊ดมาก เธอต้องการไปช่วยเขา จึงตัดสินใจจะไปกับพี่น้องด้วย แต่ก็ถูกพี่น้องห้ามไว้
"ท่านประมุขหญิงเป็นหญิง จะไปเสี่ยงอันตรายคงไม่เหมาะนัก"
"แต่ข้าอยากช่วยพี่โรบิน" แจมมี่ อู๊ดยืนกราน


เมื่อหนักเข้า ทั้งพี่น้อง ทั้งรองธิดาอ้วนพี ต่างไม่มียอมใคร สุดท้ายเมื่อแจมมี่ อู๊ดงัดไม้เด็ดออกมาใช้


"ข้าจะไปช่วยพี่โรบินเดี๋ยวนี้เลย คืนนี้พวกเจ้าค่อยตามไปละกัน"


ฮอลลี่ อู๊ดก็วิ่งเข้าไปจับแขนขวาของเธอ ในขณะที่เธอกำลังเดินไปทางพระราชวัง แต่แล้วทันที่เขาจับแขนเธอ …


แจมมี่ อู๊ดปัดขาไปข้างหน้า และเหวี่ยงแขนขวาของเธอไปข้างหน้าเช่นกัน ทำให้ฮอลลี่ อู๊ดถูกดึงไปในทิศทางนั้น อันเป็นทางที่เขาวิ่งไปอยู่แล้ว ก่อนที่แจมมี่ อู๊ดจะบิดแขนขวาขึ้นจนแขนของเธอหลุดจากมือของเขา เธอจับแขนของฮอลลี่ อู๊ดที่เคยจับเธอไว้ บิดไปทางไหล่ของเขา และใช้มืออีกข้างดันข้อศอกของเขายกขึ้น จนเขาเสียหลักหงายหลังล้มลงไป ไขมันมากมายของเขากระแทกพื้น เสียงนั้นดัง และหนักแน่น


"พลั่ก … โอ๊ย" เสียงฮอลลี่ อู๊ดดังขึ้น พี่น้องหันมองไปทางเขา


จากนั้น พี่น้องที่เหลือก็ตรงเข้าไปคว้าตัวเธอไว้ เพื่อไม่ให้เธอไปยังพระราชวังอืดบวมใหญ่ แต่ทั้งหมดก็ต้องตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากฮอลลี่ อู๊ดมากนัก


"ซาหนุจาเลอ" ท่านผู้เฒ่าตาขาวตบมือดีใจ
"ข้าไม่ใช่นางงามที่แค่สวยเป็นอย่างเดียวนะ" แจมมี่ อู๊ดประกาศ


ในที่สุด ฮอลลี่ อู๊ดที่ลุกขึ้น และมองการต่อสู้ของแจมมี่ อู๊ดอยู่นาน ก็ยอมให้เธอบุกวังในคืนนี้ด้วย เพราะเห็นวิชาไอคิโดของเธอ


"นี่ยังดีนะ ที่ข้าไม่ได้หักกระดูกพวกเจ้าจริงๆ ข้ากลัวว่าถ้าเจ้ากระดูกหัก ก็ไม่มีใครไปช่วยพี่โรบินกันพอดี" แจมมี่ อู๊ดคุยทับ


 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter