ดินแดนอ้วนพี ตอนที่ 16 -

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

ดวงดาวน้อยใหญ่ต่างแวะมาเยี่ยมเยียนท้องฟ้าที่บัดนี้ความมืดมิดไปปกคลุมสิ้นแล้ว ด้วยเกรงว่าท้องฟ้าจะเหงา เพราะหลายคืนที่ผ่านมา มีเพียงดวงจันทร์เท่านั้นที่อยู่เคียงข้างกับท้องฟ้า ในขณะที่บ้านเรือนน้อยใหญ่ในเมืองหลวงต่างปิดประตูเงียบ มีเพียงร้าน "เจ็ดสิบเอ็ด" เท่านั้น ที่ยังคงเปิด ทำให้เมืองหลวงดูไม่เหงาเกินไปนัก


"ติ๊งต่อง … ร้านเจ็ดสิบเอ็ด สวัสดีครับ" เสียงพนักงานในร้านกล่าวทักทาย


เธอเดินเข้าไปในร้าน หยิบไก่ทอดคลุกรำละเอียด 2 กล่อง แล้ววางไว้ที่เคาน์เตอร์ พร้อมยื่นธนบัตรใบละ 100 กีบให้พนักงานตัวเดิม


"รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ …" เขาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า
"… สิบสี่ ยี่สิบห้า กับสิบสี่ ยี่สิบห้า ทั้งหมดห้าสิบกีบ รับมาหนึ่งร้อย ห้าสิบกีบเงินทอน ขอบคุณที่ใช้บริการ โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ"


นับเป็นการซื้อขายที่ไม่ต้องมีบทสนทนา ชีวิตในเมืองหลวงช่างรีบร้อนเสียเหลือเกิน แม้ในยามค่ำคืนเช่นนี้


เมื่อออกจากร้าน เธอเอาไก่ทอดคลุกรำละเอียดทั้งสองกล่องใส่ลงไปในถุงก๊อบแก๊บสีดำใบโต มัดปากถุง และสะพายหลัง เหมือนกับที่คู่รักของเธอเคยทำเมื่อออกปล้น


"เราไปกันเถอะ ข้าได้อาหารสำหรับพี่โรบินแล้ว ของโปรดของเขาซะด้วย อยู่ในคุกมาทั้งวันทั้งคืนคงหิวน่าดู" แจมมี่ อู๊ดบอกกับเหล่าพี่น้องพรรคกระยาจก แอบทำตาหวานให้ไก่ทอดสองกล่องนั้น


ท้องฟ้ายังคงมีแสงจากดวงดาวน้อยใหญ่ ระยิบระยับวับวาว ดุจดั่งดวงตาที่มีแววแห่งความหวังของแจมมี่ อู๊ด และชาวพรรคทุกตัว เป็นความหวังที่จะช่วยโรบิน อู๊ดให้ได้ และความหวังที่จะให้ดินแดนอ้วนพีกลับมาเป็นดินแดนที่มีแต่ความสุขอีกครั้ง

กำแพงพระราชวังอืดบวมใหญ่ทอดยาวไปตามถนนโคเลสเตอรอล แจมมี่ อู๊ดนำทางชาวพรรคกระยาจกมาถึงจุดที่ใกล้ปราสาทอ้วนพีที่สุด เธอรู้เส้นทางดี เพราะเธอเป็นชาวเมืองหลวง และเมื่อครั้งที่เธอได้รับตำแหน่งรองธิดาอ้วนพี เธอเคยได้รับเชิญจากพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า ให้ไปพบในพระราชวังมาก่อน


ฮอลลี่ อู๊ดรู้หน้าที่ ทันที่แจมมี่ อู๊ดให้สัญญาณ เขาก็ยกบันไดไม้ไผ่ขึ้นพาดกับขอบกำแพง แล้วค่อยๆ ปีนขึ้นไปจนสุดบันได หันลงมาส่งสัญญาณให้พี่น้องตัวอื่นๆ ปีนตามขึ้นไป


ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ เพราะบรรยากาศรายรอบก็เงียบเชียบเช่นกัน


แจมมี่ อู๊ดตามขึ้นไปเป็นตัวสุดท้าย ก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันยกบันไดข้ามกำแพงไปซ่อนในกอหญ้ารกๆ เพื่อไม่ให้ใครมาเห็น


แล้วทั้งหมดก็เดินอุ้ยอ้ายอย่างเงียบเชียบเข้าไปใกล้พระราชวังทีละนิด … ทีละนิด


เหล่าทหารหมูในวังต่างถูกเกณฑ์ไปเตรียมสถานที่ในงานชุมนุมเชือดสุกรกันหมด การรักษาความปลอดภัยในพระราชวังอืดบวมใหญ่ดูหละหลวมขึ้นมาก แจมมี่ อู๊ดจึงพาพรรคพวกเดินไปถึงทางเข้าคุกใต้ดินได้อย่างไม่ยากนัก


ทางเข้านั้นแคบมาก เป็นบันไดลงไปยังชั้นใต้ดินของพระราชวัง ชาวอ้วนพีสามารถเดินผ่านเข้าออกได้เพียงครั้งละตัวเท่านั้น ฮอลลี่ อู๊ดจึงลงไปสำรวจในนั้นเพียงตัวเดียว ก่อนจะขึ้นมาบอกกับผู้เฒ่าตาขาวว่า


"ท่านผู้เฒ่าตาขาว มีทหารหมูอยากเล่นทายปัญหาอะไรเอ่ยกับท่าน เขาอยู่ในนั้น"


เขาใช้กีบมือชี้ไปตรงทางเข้า ท่านผู้เฒ่าตาขาวดีใจ ที่มีหมูอยากทายปัญหากับเขา เพราะเขาชอบทายปัญหาอะไรเอ่ยมาก พี่น้องพรรคกระยาจกเป็นพยานได้


"จีเหรอ เขาหย่าเล่ทาปาหาอะไรเอ่อเหรอ" ท่านผู้เฒ่ายิ้มดีใจ และวิ่งลงไปในนั้น


ทหารหมูผู้คุมคุกใต้ดิน นั่งเฝ้าคุกอย่างเดียวดาย กำลังเคลิ้มๆ กลิ่นเหล้ายังคงโชยกรุ่นออกจากรูจมูกกลมโตของเขา เมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าตาขาววิ่งลงไป ก็นึกดีใจว่าได้เพื่อนดื่มเหล้าด้วยกันแล้ว


"คืนนี้ เพื่อนข้าไปเตรียมงานเชือดเจ้าโรบิน นู่น … เอื๊อก … มันโดนขังอยู่ในนู้น นู่น ข้าเลยต้องอยู่ตัวเดียว มีเหล้าเป็นเพื่อน เขามีแต่รณรงค์ให้ มาวไม่แบก แต่ขะ … เอื๊อก … แต่ข้าเปนหมูคุมคุก ม่ะ … เอื๊อก … ไม่มี มาวไม่คุม เจ้ามาก็ดีและ มาดื่มเปนเพื่อนข้าละกัน นะ … เอื๊อก"
"นี่ๆ มาเล่ทาปาหาอะไรเอ่อกานะ" ท่านผู้เฒ่าเอ่ยปากชวน
"ได้เลย ข้าจะเล่นทายปัญหากับเจ้า เจ้าทายมา ข้าจะตอบ … เอื๊อก" ทหารหมูฟังภาษาของท่านผู้เฒ่ารู้เรื่อง อาจเป็นเพราะฤทธิ์สุราที่ทำให้ทหารหมูก็เป็นบ้าพอๆ กับท่านผู้เฒ่าตาขาวก็เป็นได้
"เอาล่ะนะ … งูอะไรตาแล้" ท่านผู้เฒ่าถามคำถามแรก
"เฮอะๆ งูอะไรตายแล้ว งูอะไรล่ะ งู … อ๋อ … งูโดนเกี้ยวทับ เจ้าถามอารายเนี่ย ข้าไม่ได้หมูอย่างที่เห็นนะ" ทหารหมูตอบอ้อแอ้
"ม่าช่า" ท่านผู้เฒ่ายิ้มกริ้มกรุ่ม ดีใจที่ยังไม่มีใครสามารถตอบปัญหาข้อนี้ได้
"อะไร ไม่ใช่เหรอ แล้วงูอะไรตายแล้ว"
"งูเขียหาไม่" ท่านผู้เฒ่าตาขาวเฉลย
"มันตายยังงายอ้ะ ไอ้งูเขียวหางไหม้เนี่ย" ทหารหมูยังสงสัย
"ก็งูเขียวมันหาไม่ไงล่ะ หาไม่ก็แปลว่าตายแล้วไง" เสียงฮอลลี่ อู๊ดตอบกลับมา หลังจากที่ซุ่มดูอยู่นาน
"อ๋อๆ ขอบใจ เจ้าเป็นใคร จะมาดื่มกับข้าอีกตัวเหรอ ได้เลย มากันเยอะๆ สนุกดี อ้ะ เจ้า ทายปัญหาต่อซิ ข้าจะขอแก้ตัว … เอื๊อก" ทหารหมูยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง
"เดี๋ยวสิท่าน ข้าว่า คราวนี้ถ้าท่านทายไม่ถูก ข้าจะให้ท่านผู้เฒ่าเขกหัวเจ้าทีนึง แต่ถ้าเจ้าทายถูก เจ้าต่อยข้าได้หมัดนึง เอาแรงๆ เลยนะ" ฮอลลี่ อู๊ดท้าทายทหารหมู เขามั่นใจว่าไม่มีใครตอบคำถามของท่านผู้เฒ่าตาขาวได้
"ฮู้ย … ทำไมจะไม่ได้ … เอื๊อก … เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว ถามมาเล้ย" ทหารหมูตกลง
"ต่อเลอนะ ปาอะไรย่ากัว" ท่านผู้เฒ่าถามคำถามที่สอง
"เออ แน่ะ … ปลาอะไรย่ากลัว เดี๋ยวๆๆ คิดก่อนนะ .. เอื๊อก … ปลา … ปลากัดปู่ใช่มั้ยล่ะ"
"ม่าช่า" ท่านผู้เฒ่าตาขาวยังไม่ยอมเฉลย
"ถ้าม่ายช่าย งั้นปลาๆๆๆๆๆๆ … ปลา … เอื๊อก … ข้าม่ายรู้ ข้ามาววววว" ทหารหมูคิดไม่ออก
"ก็ปาดุย่าไง" ท่านผู้เฒ่าเฉลย
"อาราย ปลาดุกย่างอ้ะนะ ย่ากลัว แล้วย่าจะกลัวได้ไง" ทหารหมูเถียง
"ท่านฟังท่านผู้เฒ่าดีๆ สิ … ท่านผู้เฒ่าตาขาว ปลาอะไรย่ากลัวนะ" ฮอลลี่ อู๊ดถามอีกครั้ง
"ปาดุย่า"
"เห็นมั้ย ปลาดุย่า … ปลาดุย่า ย่าก็เลยกลัวไง ท่านแพ้แล้ว ต้องให้ท่านผู้เฒ่าเขกหัว ก้มหัวมาซะดีๆ" ฮอลลี่ อู๊ดยิ้มได้ใจ
ทหารหมูก้มหัวยอมให้เขกแต่โดยดี ท่านผู้เฒ่าตาขาวกำลังสนุก รวบรวมกำลังทั้งหมดลงที่มือขวา แล้วเขกลงบนหัวของทหารหมู


"เป๊กกก" เสียงนั้นดังลั่นคุก ร่างของทหารหมูไร้สตินอนแผ่หลาอยู่บนพื้น
"เจ้ารู้จักท่านผู้เฒ่าตาขาวน้อยไป" ฮอลลี่ อู๊ดเอ่ยขึ้น และหันไปทางบันไดคุกใต้ดินอีกครั้ง เพื่อรับแจมมี่ อู๊ดลงมา


เธอรีบเดินเข้าไปในคุกที่ดูแออัด และเหม็นอับ ห้องน้ำ ห้องนอนถูกรวมมาไว้ในห้องเดียวกัน มันเป็นห้องขังที่ดูคับแคบที่สุดเท่าที่แจมมี่ อู๊ดเคยเห็น เธอนึกสงสารหมูเหล่านี้ขึ้นมาจับใจ เพราะรู้ว่านักโทษส่วนหนึ่งไม่ได้ทำความผิดจริง เป็นเพียงแพะที่ถูกจับเท่านั้น โรบิน อู๊ดก็เช่นกัน เขาไม่ใช่แพะ เขาเป็นหมูที่ดี เป็นที่นับถือกันในหมู่หมูผู้ยากไร้ในดินแดนอ้วนพี แต่เขากลับต้องมาอยู่ในสถานที่แบบนี้


"แจมมี่ … ใช่แจมมี่จริงๆ ด้วย เจ้ามาได้ยังไง" โรบิน อู๊ดร้องเรียกผ่านลูกกรงเหล็กอันแน่นหนา
"พี่โรบิน พี่โรบินเป็นยังไงบ้าง หิวรึเปล่า ข้าเอาไก่ทอดคลุกรำละเอียดมาให้พี่"
"พี่ไม่เป็นไรหรอก แค่ข้าเห็นหน้าเจ้า ข้าก็ดีใจมากแล้ว" โรบิน อู๊ดแอบหวาน
"แหมพี่ก็ ข้าไปเปิดประตูให้พี่ก่อนดีกว่า" แจมมี่ อู๊ดพูดจบก็หยิบกุญแจที่ได้จากทหารหมูตัวนั้น ไขประตูที่ปิดกั้นอิสรภาพให้เปิดออก โรบิน อู๊ดเดินออกมาจากประตู
"ท่านประมุข นี่กระบี่ของท่าน" ฮอลลี่ อู๊ดยื่นกระบี่เล่มใหม่ให้กับโรบิน อู๊ด มันเป็นกระบี่ที่ชาวพรรคตัวหนึ่งที่เคยเปิดร้านตีกระบี่ตีไว้ สมัยเมื่อครั้งเศรษฐกิจของดินแดนอ้วนพียังดีอยู่ กระบี่เล่มนี้ถูกขัดจนขึ้นเงา จนเขาเห็นใบหน้าของเขาบนคมกระบี่นั้น ฝักกระบี่ทำจากไม้เนื้อแข็งน้ำหนักเบา เป็นอาวุธที่เหมาะกับตำแหน่งประมุขพรรคกระยาจกมาก ถ้าไม่นับรวมไม้เท้าตีสุกรนั้น
"แล้วเจ้าล่ะ จะใช้อาวุธอะไรต่อสู้" โรบิน อู๊ดถามฮอลลี่ อู๊ด
"ไม่ต้องห่วงท่านประมุข ข้ามีไม้เท้าตีสุกร ขอยืมท่านประมุขก่อนนะ" ฮอลลี่ อู๊ดตอบยิ้มๆ
"ดี งั้นเราออกไปจากที่นี่กันดีกว่า" โรบิน อู๊ดพูด พร้อมกับจับมือแจมมี่ อู๊ดวิ่งขึ้นบันไดออกไป
"ระวัง ท่านประมุข" ฮอลลี่ อู๊ดร้องเตือน
"ก๊อง ก๊อง ก๊อง …" เสียงนั้นดังมาจากพื้น เมื่อโรบิน อู๊ดก้มลงดู ก็เห็นแผ่นไม้ที่ร้อยกับเชือกเอาไว้ มันเป็นเชือกที่ลากยาวไปทั่วพระราชวังอืดบวมใหญ่ เสียงนั้นจึงค่อยๆ แผ่กระจายออกไปรอบพระราชวัง
"แย่แล้ว ข้าไปโดนสัญญาณเตือนภัย"

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter