ดินแดนอ้วนพี ตอนที่ 17 -

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 

 

"ก๊อง … ก๊อง …" เสียงสัญญาณเตือนภัยยังคงดังอย่างต่อเนื่อง พระราชวังที่เงียบสงัดเมื่อสักครู่ บัดนี้มีเสียงแตร เสียงฝีเท้าของทหารหมูที่ไม่ได้ไปเตรียมงานชุมนุมเชือดสุกรวิ่งกันขวักไขว่ คบไฟถูกจุดไปทั่วบริเวณ


เมื่อโรบิน อู๊ดออกมาจากทางเข้าคุกใต้ดินแล้ว เขาก็สั่งการให้พี่น้องชาวพรรคกระยาจกที่รออยู่ให้เล่นรถไฟกันอีกครั้ง เขาตั้งใจจะกระโดดไปบันไดทางเข้าปราสาทอ้วนพี เพราะเป็นทางเดียวที่จะต่อสู้กับทหารหมูทั้งวังได้ เพราะทางขึ้นปราสาทมีเพียงพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าเท่านั้นที่สามารถขึ้นลงได้ ส่วนทหารหมูต้องอยู่ด้านล่าง ทำให้ต่อสู้ได้โดยง่าย


"ข้าจะพาพวกเจ้าขึ้นไปยังบันไดทางเข้าปราสาท ที่นั่น เจ้าจะต่อสู้กับพวกทหารหมูที่ขึ้นบันไดมาจากด้านล่างได้ง่าย มันดีกว่าที่จะต้องฝ่าวงล้อมออกไป" โรบิน อู๊ดอธิบายแผนการ


แล้วทั้งหมดก็จับเอวกันอีกครั้ง เหมือนตอนที่เขากระโดดข้ามกำแพงเมืองเข้ามา ท่านผู้เฒ่าตาขาวเห็นดังนั้น ไม่มีใครบอกอะไรเขา เขาเดินมาคว้าเอวของโรบิน อู๊ดเอาไว้เอง


"เล่โระไฟเหรอ หนุๆ ข้าเล่ดั้วนะ" แล้วโรบิน อู๊ดก็กระโดดขึ้นไปพร้อมกับแจมมี่ อู๊ด และชาวพรรคทั้งหมด


บันไดปราสาทนั้นดูกว้างขวาง สมกับเป็นที่ประทับของพระราชาแห่งดินแดนอ้วนพี พี่น้องพรรคกระยาจกยืนเรียงหน้ากระดานไปตามความกว้างของบันไดนั้น มองเห็นคบไฟที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านล่าง แสงไฟนั้นสะท้อนแสงปลาบจากอาวุธมากมาย ทุกแสงนั้นกำลังมุ่งตรงมายังปราสาท


"ทหารหมู … ลุย …" ไมตี้ อู๊ด หัวหน้าอัศวินแห่งพระราชวังอืดบวมใหญ่บัญชาการรบด้วยตนเอง


คลื่นกองทัพหมูด้านล่าง วิ่งกรูขึ้นมาบนบันไดที่พี่น้องพรรคกระยาจกเตรียมรับมืออยู่แล้ว เมื่อกองทัพหมูใกล้เข้ามา ฮอลลี่ อู๊ดก็ตะโกนขึ้น


"พี่น้องของข้า … โยกย้าย … สาม … สี่"
"โยกไปทางซ้าย แล้วก็ย้ายไปทางขวา โยกไปข้างหน้า แล้วก็โยกมาข้างหลัง …"
แล้วทั้งหมดก็วิ่งสูงขึ้นไปบนบันได จับราวบันไดเอาไว้ ในขณะที่ท่านผู้เฒ่าตาขาวยังยืนอยู่ที่เก่า และเริ่มหมุนเอวไปตามจังหวะเพลงแล้ว


ทหารหมูด้านล่างยังคงวิ่งขึ้นมาอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ท่านผู้เฒ่าตาขาวหมุนเอวแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะเพลง
"โยกย้าย โยกย้าย โยกย้ายส่ายสะโพกโยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย …"


และเช่นเดิม เมื่อท่านผู้เฒ่าตาขาวใช้วิชาเคลื่อนย้ายสุกร ลมจากทุกสารทิศก็พัดมารวมกันอยู่รอบๆ ตัวของเขา เกิดเป็นพายุลูกเล็กๆ ขึ้นมา


"ทหารหมู หนีออกมา อย่าเข้าไป" ไมตี้ อู๊ดที่เคยถูกลมหอบมาแล้ว ตะโกนบอกทหารหมูที่กำลังวิ่งขึ้นไป แต่เสียงนั้นกลับถูกเสียงเพลงโยกย้าย และเสียงพายุจากท่านผู้เฒ่าตาขาวกลบเสียสิ้น ในขณะที่ไมเคิล อู๊ดกับมอร์แกน อู๊ดยังตื่นตะลึงกับวิชาเคลื่อนย้ายสุกรที่ทั้งสองเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก


สายลมนั้น แทนที่จะดูดเอาชาวอ้วนพีเข้าไปยังศูนย์กลางเหมือนกับครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ครั้งนี้ มันกลับพัดออกจากตัวท่านผู้เฒ่าตาขาว เหล่าทหารหมูไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ กระแสลมนั้นพัดทหารหมูที่วิ่งเข้ามาใกล้ให้ลอยละล่องออกไป ก่อนจะตกลงไปยังพื้นเบื้องล่าง


"โยกย้าย โยกย้าย โยกย้ายส่ายสะโพกโยกย้าย ส่ายสะโพกโยกย้าย …"


เสียงเพลงยังคงดังต่อไป และในที่สุด ท่านผู้เฒ่าก็ลอยขึ้นจากพื้น และหายไปกับพายุลูกนั้นท่ามกลางความมืดมิดแห่งราตรี
สายลมเริ่มสงบลงอีกครั้ง โรบิน อู๊ดไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่เขาก็เคยเห็นวิชานี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ ผลที่ได้ช่างแตกต่างจากครั้งที่เขาเคยเห็นอย่างสิ้นเชิง


"ท่านผู้เฒ่าหายไปไหน ทำไมวิชาเคลื่อนย้ายสุกรของท่านจึงแปลกออกไป" เขาถามขึ้น
"ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" ฮอลลี่ อู๊ดตอบ
"ข้าเห็นท่านผู้เฒ่าหมุนเอว แต่เป็นคนละข้างกับครั้งที่ผ่านๆ มา ครั้งที่พัดพี่น้องกลุ่มหนึ่งของเรา ท่านผู้เฒ่าหมุนเอวไปทางขวา ครั้งก่อน ที่เมืองร้างก็หมุนขวา แต่ครั้งนี้ ท่านผู้เฒ่าหมุนไปทางซ้าย" พี่น้องพรรคกระยาจกตัวหนึ่งตั้งข้อสังเกต
"เจ้าหมายความว่า ท่านผู้เฒ่าหมุนเอวคนละข้างกับที่แล้วๆ มา เลยทำให้พายุพัดท่านผู้เฒ่าไปเองอย่างนั้นเหรอ" ฮอลลี่ อู๊ดถาม
"ใช่"


ไม่มีใครรู้ว่าท่านผู้เฒ่าตาขาวถูกพายุหอบไปไหน นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในรอบหนึ่งปีของพรรคกระยาจกเลยทีเดียว


"ไม่ต้องห่วงท่านผู้เฒ่าตาขาวหรอกนะ ไก่ทอดคลุกรำละเอียดอยู่กับท่านผู้เฒ่า ถ้าท่านผู้เฒ่าหิวก็คงหยิบขึ้นมากินเอง ถ้ามีวาสนา เรากับท่านผู้เฒ่าต้องได้พบกันอีก" แจมมี่ อู๊ดพูดขึ้น หลังจากหายตื่นเต้นกับวิชาเคลื่อนย้ายสุกรที่เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกแล้ว
"ท่านประมุข ท่านขึ้นไปหาพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าดีกว่า ทางนี้พวกข้าจัดการเอง" ฮอลลี่ อู๊ดเอ่ยขึ้น
"ข้าก็กำลังจะขึ้นไปอยู่แล้ว ไม่มีคืนไหนจะเหมาะแก่การบุกพระราชวังเท่าคืนนี้อีกแล้ว ทหารหมูส่วนหนึ่งถูกเกณฑ์ไปเตรียมงานที่สนามกีฬาอ้วนพี ส่วนทหารหมูที่นี่ ท่านผู้เฒ่าก็จัดการไปมากแล้ว ข้าจะไม่ให้ท่านผู้เฒ่าตาขาวเสียแรงเปล่าแน่นอน ฮอลลี่ ข้าฝากดูแลแจมมี่ด้วยนะ" โรบิน อู๊ดพูด และวิ่งขึ้นบันไดไป ปล่อยให้พี่น้องพรรคกระยาจกรับมือกับอัศวินสามทหารหมูกับเหล่าทหารหมูที่เหลือ

สูงขึ้นไปจนถึงยอดปราสาทอ้วนพี ต่อหน้าภาพเหมือนของตนเอง พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าหันหลังให้กับประตู ชื่นชมผลงานปลายพู่กันนั้นอยู่ ในขณะที่โรบิน อู๊ดขึ้นมาถึงประตูที่เปิดกว้าง คล้ายเป็นการเชื้อเชิญ


"มาแล้วเหรอ โรบิน อู๊ด ข้าขังเจ้าไว้ในคุก แต่เจ้าก็ยังหนีออกมาได้ เจ้าจะหนีไปถึงเมื่อไหร่กัน" พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าถามขึ้น สายตายังคงจับจ้องไปที่ภาพๆ นั้น
"ข้าจะไม่หนีอีกต่อไปแล้ว ข้ามาหาท่านเพราะต้องการทราบเพียงว่า หมาจิ้งจอกตัวนั้นคือใคร" โรบิน อู๊ดไม่อ้อมค้อม
"นี่เจ้ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ …" พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าหันมาสบตากับโรบิน อู๊ด ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า
"… เจ้าว่า รูปข้างหลังข้านี้ หน้าตาเหมือนกับข้ามั้ยล่ะ"
"ท่านหมายความว่ายังไง ข้าไม่เข้าใจ"
"ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะข้าก็ไม่อยากให้ใครเข้าใจ แต่เจ้าก็รู้ความลับอะไรบางอย่าง ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่" พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดพูดพร้อมกับชักกระบี่ออกมา ชี้ตรงไปที่โรบิน อู๊ด


จอมโจรอ้วนพีไม่รอช้า ควงกระบี่ด้วยมือขวา วางฝักกระบี่ไว้ที่มือข้างซ้าย เลื่อนมือขวาชักกระบี่ออกมาเพียงครึ่งเล่ม เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เขาเตรียมต่อสู้กับศัตรู


สายลมยามราตรีบนยอดปราสาทพัดผ่านประตูที่เปิดกว้าง เป็นสายลมที่เย็นยะเยียบ คล้ายเป็นมีดกรีดเนื้อ ทุกครั้งที่พัดต้องกายของเขาทั้งสองที่ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาใกล้กันเรื่อย … เรื่อย …


พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าเริ่มขยับกายวิ่งเข้าหาโรบิน อู๊ดที่ก็กระโดดสวนมาในจังหวะเดียวกัน


กระบี่ของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าเล็งเข้าที่กลางศีรษะของโรบิน อู๊ด แต่พลาด โรบิน อู๊ดยกฝักกระบี่เข้าป้องกันในจังหวะที่เขาลอยอยู่กลางอากาศ คมกระบี่นั้นจมลึกเข้าไปในฝัก ติดแน่นอยู่ตรงนั้น แรงกระโดดของโรบิน อู๊ดยังคงส่งตัวเขาให้ลอยต่อไป ทำให้กระบี่อีกครึ่งเล่มหลุดออกมาจากฝัก และเขาก็ลอยไปชนหัวไหล่ของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าจนเสียหลักลอยไปทางด้านหลัง คมกระบี่ของเขาเฉียดหลังของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าไป …


"ฉับ" เสียงนั้นคมกริบ โรบิน อู๊ดล้มลง ม้วนหน้าหนึ่งรอบ ก่อนที่จะยืนขึ้น หันกลับมาในท่าตั้งรับ แต่เขาก็ต้องลดกระบี่ลง เมื่อเห็นสิ่งที่คมกระบี่ของเขาตัดเมื่อครู่


หางของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าแน่นิ่งอยู่ที่พื้น และค่อยๆ กลายเป็นหางขนฟูสีน้ำตาล ร่างของพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหมาจิ้งจอก


"หางของข้า เจ้าตัดหางของข้า" หมาจิ้งจอกพูดขึ้นเมื่อเห็นหางของตน ท่ามกลางสายตาของสามทหารหมู กับเหล่าทหารหมูที่รุกไล่พี่น้องพรรคกระยาจกขึ้นมาถึงยอดปราสาทพอดี ชาวอ้วนพีทุกตัวต่างตกตะลึงต่อภาพที่เห็น


ไมตี้ อู๊ดไม่เชื่อสายตาตัวเอง และเมื่อตั้งสติได้ เข้าก็วิ่งเข้ามาในปราสาทอ้วนพี สายตายังคงปรากฏแววสับสน ก็เมื่อครู่ที่ผ่านมา เขายังเห็นพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าอยู่ตรงหน้า แต่บัดนี้ พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าที่เขากับไมเคิล อู๊ดและมอร์แกน อู๊ดจงรักภักดีมาตลอด กลับกลายเป็นหมาจิ้งจอกไปต่อหน้าต่อตา


"โรบิน เจ้าตบตาข้าใช่มั้ย มันเป็นการแสดงละครหลอกพวกเราเพื่อเจ้าจะได้ไม่เพียงพ้นโทษ แต่ยังมีความดีความชอบอีกใช่มั้ย" ไมตี้ อู๊ดตะโกนใส่โรบิน อู๊ด
"ไมตี้ เจ้าก็เห็นอยู่กับตาแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้าได้กลายร่างกลับไปเป็นหมาจิ้งจอก" น้ำเสียงของโรบิน อู๊ดดูนิ่ง สงบ
"ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว หางของข้าก็ขาดไปแล้ว เจ้ารู้มั้ยว่าชาวขนหางฟูอย่างข้าภูมิใจกับหางของตนเป็นที่สุด มันสามารถทำให้ข้าแปลงร่างได้ เมื่อหลายปีก่อน ข้าลอบเข้าดินแดนอ้วนพีของพวกเจ้า และเข้ามาในวังเพื่อปลงพระชนม์พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า จากนั้น ข้าก็สวมรอยแปลงร่างเป็นราชาของพวกเจ้า …" เจ้าหมาจิ้งจอกพูดขึ้น แจมมี่ อู๊ดเห็นแววตาแห่งความเจ้าเล่ห์ของมัน
"… เจ้าดูภาพของพระราชาที่ตายไปแล้วของเจ้าสิ ข้าแปลงร่างได้เหมือนมั้ยล่ะ ฮ่าๆๆ" เมื่อจิ้งจอกพูดจบ ชาวอ้วนพีที่อยู่ในปราสาทก็หันไปมองภาพนั้น เจ้าหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ไม่รอช้า รีบลุกขึ้นจับแขนแจมมี่ อู๊ดเอาไว้จากด้านหลัง เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิง คงไม่สามารถต่อสู้ได้


ทุกสายตาหันกลับมายังหมาจิ้งจอก ที่ตอนนี้ได้จับแจมมี่ อู๊ดเป็นตัวประกันแล้ว


"แจมมี่ …" โรบิน อู๊ดร้องเรียก ฮอลลี่ อู๊ดวิ่งเข้าไปรั้งเขาไว้
"ปล่อยเป็นหน้าที่ของท่านประมุขหญิงเถอะ" ฮอลลี่ อู๊ดเอ่ยขึ้น


ทันใดนั้น แจมมี่ อู๊ดก็ยกแขนทั้งสองขึ้น ปัดขาไขว้ไปทางด้านหลัง มุดตัวออกมาใต้แขนขวาของจิ้งจอก หมุนตัวหนึ่งรอบทำให้มันปล่อยแขนซ้ายของเธอ เบียดตัวเข้าหาจิ้งจอก กางศอกขวา แล้วหมุนตัวอีกหนึ่งรอบ กระแทกข้อศอกของมันลงบนไหล่ของเธอ แขนของมันหักคาไหล่ และเธอก็เหวี่ยงเจ้าจิ้งจอกลงกับพื้น


"จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ต้องเจอแบบนี้ ไมตี้ เจ้ายังจะรับได้อีกมั้ย ถ้าจิ้งจอกตัวนี้บอกว่ามันเป็นพระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า เจ้ากับสหายของเจ้าจะยังจงรักภักดีต่อมันอีกมั้ย ข้าอยากเห็นชาวอ้วนพีรักกัน สามัคคีกัน ตลอดเวลาหลายปีมานี้ เราอยู่ใต้การปกครองของจิ้งจอกตัวที่อยู่ต่อหน้าเจ้า เจ้าจะปล่อยให้มันครอบงำเราอีกหรือไง เจ้าเป็นชาวอ้วนพีหรือเปล่า ไมตี้" แจมมี่ อู๊ดเหลืออด


"แจมมี่ คือข้า …" ไมตี้ อู๊ดพูดอะไรไม่ถูก
"ไมตี้ พอเถอะ เรารู้ความจริงกันหมดแล้ว เจ้าอย่าหลอกตัวเองอีกเลย" ไมเคิล อู๊ดพูดขึ้น ฝ่ามือแตะลงที่หัวไหล่ของไมตี อู๊ดเป็นเชิงปลอบใจ
"ใช่แล้ว ไมตี้ เราต้องขอบคุณโรบิน อู๊ดนะ ที่เขาทำให้พวกเราตาสว่าง ไม่ตกเป็นทาสของชาวต่างดินแดนไปมากกว่านี้" มอร์แกน อู๊ดเสริม
"พวกเจ้าบอกข้าทีสิว่า ข้าฝันไป … นี่ข้าฝันไปใช่มั้ย" ไมตี้ อู๊ดคร่ำครวญกับสหายทั้งสอง
"มันเป็นความจริง ไมตี้ เจ้าไม่ได้ฝันไป"

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter