ดินแดนอ้วนพี

เขียนโดย
: บ.ใบไม้สีเขียว (etabo@yahoo.com)
 

 

 
ตอนที่ 1 ณ ริมแม่น้ำขาวใหญ่ (เพิ่มเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 47)
ตอนที่ 2 พระเจ้าพิกกี้ อู๊ดที่แปดสิบจุดห้า (เพิ่มเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 47)
ตอนที่ 3 คฤหาสน์เสือน้อย (เพิ่มเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 47)
ตอนที่ 4 คฤหาสน์เสือน้อย (อีกครั้ง) (เพิ่มเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 47)
ตอนที่ 5 รองธิดาอ้วนพี (เพิ่มเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 47)
ตอนที่ 6 วันแรกพบ (เพิ่มเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 47)
ตอนที่ 7 ตะลุมบอนในเมืองร้าง (เพิ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 47)
ตอนที่ 8 ท่านผู้เฒ่าตาขาว (เพิ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 47)
ตอนที่ 9 พรรคกระยาจก (เพิ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 47)
ตอนที่ 10 ยาจกยากแค้น ทั่วแดนอ้วนพี รู้รักสามัคคี อ้วนพีดังเดิม (เพิ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 47)
ตอนที่ 11 รุ่งอรุณแห่งความหวัง (เพิ่มเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 47)
ตอนที่ 12 รำหิมะ (เพิ่มเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 47)
ตอนที่ 13 เมืองหลวง … เหตุการณ์ปกติ (แน่หรือ) (เพิ่มเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 47)
ตอนที่ 14 วิ่งไล่จับ … กับเจ้าตัวเล็ก (เพิ่มเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 47)
ตอนที่ 15 ชุมนุมเชือดสุกร (เพิ่มเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 48)
ตอนที่ 16 บุกพระราชวังอืดบวมใหญ่ (เพิ่มเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 48)
ตอนที่ 17 ท่านผู้เฒ่า ... โยกย้าย (เพิ่มเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 48)
ตอนที่ 18 และเรื่องราวก็จบลง (เพิ่มเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 48)

 

กว่าจะเห็นเป็น "ดินแดนอ้วนพี"
 

แรงบันดาลใจที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า วันนึง เมื่อปีที่แล้ว ช่วงงานมหกรรมหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ เมื่อเดือนตุลา รุ่นน้องผมคนนึง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คู่หูคู่ฮาของผมนั่นเอง ... รุต ... รุตเอาใบปลิวมาให้ใบนึง ข้อความในนั้นเป็นการประกาศเชิญชวนให้นักเขียนส่งวรรณกรรมเข้าประกวด เป็นใบปลิวของอมรินทร์
 

ตอนนั้น มีความคิดมากมายว่าจะเขียนอะไรดี เพราะฝันอยากมีหนังสือเป็นของตัวเองมานานแล้ว ก็คิดกันตั้งแต่ มด จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับมด คิดไปคิดมา มันซ้ำ เพราะ Antz กับ The Bug Life ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับมด
 

ทีนี้ จะเขียนเรื่องอะไรดีล่ะ ก็มานึกถึงตัวการ์ตูนตัวหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ... พิกเลต (Piglet) ... หมูสีชมพูที่เป็นเพื่อนของหมีพูห์ เป็นหมูตัวเดียวในโลกที่ผอมแล้วน่ารัก
 

ทีนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับหมู จะเขียนเป็นแบบหมูจริงๆ แบบที่โดดี้เขียนเรื่องเบ๊บ ก็คงไม่สันทัดกรณี เพราะถึงหมูจะเป็นตัวการ์ตูนที่ผมชอบมากๆ แต่ในเรื่องเกี่ยวกับหมูตัวเป็นๆ นั้น ผมบอกตรงๆ ว่า ไม่เคยรู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย
 

ทีนี้ ทำไงดีล่ะ ... จนเลยวันสุดท้ายที่สามารถส่งประกวดได้แล้ว ผมก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนยังไง สรุปก็คือโครงการประกวดของผมก็มีอันต้องพับไป

 

จนคืนหนึ่ง ในเดือน พ.ย. 45 ... MSN ของผมปรากฏข้อความๆ หนึ่งว่า "อัพไดให้หน่อย" เป็นข้อความจากนู๋กิฟท์ (http://nugift.storythai.com) กิฟท์เป็นสาวเอแบคคนหนึ่ง เธอสวยมาก (หมายถึงน้องสาวของเธอ) แต่ถ้าเป็นเธอ เธอมีบุคลิกลักษณะคล้ายๆ กับตัวละครในเรื่องที่ผมเคยคิดจะเขียน แต่ยังไม่ได้เขียน
 

คืนนั้น "ดินแดนอ้วนพี" ตอนที่ 1 อยู่ในไดอารี่ออนไลน์ของเธอ เป็นฉากเปิดเรื่องที่มีการประลองกระบี่กันระหว่างพระเอกกับลูกน้องตัวโกง ซึ่งเป็นพล็อตทั้งหมดของเรื่องนี้ในตอนนั้น ให้หมูในเรื่องเดินสองขา และพูดได้เหมือนคนเลยละกัน ฮาดี
 

จากนั้น ผมก็คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเขียนแบบไหนดี ตอนแรกอยากจะเขียนให้ตลก แต่ช่วงนั้น บอกตรงๆ ว่า ไม่ถนัดเขียนแนวตลกเอามากๆ
 

5 เดือนผ่านไป ... ดินแดนอ้วนพีก็ยังอยู่แค่ตอนที่ 1 จนผมได้ไปงานสัปดาห์หนังสือเมื่อ เม.ษ. ที่ผ่านมา ผมได้มารู้จักกับเวบๆ หนึ่ง ... www.emotionway.com ของพี่ขลุ่ย ผมคุ้นชื่อ "ขลุ่ย" เอามากๆ ในวันนั้น ผมจำได้ว่า พี่ขลุ่ยคนนี้ที่ผมเคยอ่านงานของเขาเมื่อนานมาแล้ว และเป็นชื่อที่คล้ายกับว่าจะฝังอยู่จิตใต้สำนึกของผม ผมนึกชื่อพี่ขลุ่ยไม่ออก จนกระทั่งมาได้ยินอีกครั้ง
 

ผมโพสต์ดินแดนอ้วนพีตอนที่ 1 เอาไว้ในเวบนั้น คอมเม้นท์หนึ่งในนั้นลงชื่อว่าดิว ข้อความเขียนว่า เขียนให้จบนะ พี่ชอบเรื่องหมูๆ และคอมเม้นท์ต่อจากพี่ขลุ่ยเขียนว่า พี่ดิวมาอ่าน ระวังจะได้รวมเล่มนะ ผมสะดุดกับข้อความ 2 ข้อความนี้มาก และผมก็ได้รู้ทีหลังว่า พี่ดิวกับพี่ขลุ่ยนี่เป็นคนๆ เดียวกัน
 

ผมเริ่มคิดว่าจะเขียนอะไรต่อดี เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป จะเอาแนวไหน และในที่สุด ผมก็ได้ความคิดที่ว่า ในเมื่อตอนแรก พระเอกบอกว่าจะไปปล้นบ้านไทเกอร์ อู๊ด ผมก็เขียนต่อให้ไปปล้นให้ได้ซะก่อน แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน
 

ผมเลยเอาดินแดนอ้วนพีกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง รวบรวมความฮา ทั้งมุขลุงและไม่ลุงออกมา จะเอามุขไหนใส่ตอนไหนของเรื่อง และจากนั้น ผมก็นึกถึงนักเขียนคนโปรดคนนึงของผม ... ดำรงค์ อารีกุล
 

ดำรงค์ เป็นนักเขียนที่เขียนตลก และเสียดสีได้ดีมากๆ ผมจึงตัดสินใจเขียนแนวนี้ และดินแดนอ้วนพีก็กลายเป็นเรื่องฮาและเสียดสีไปได้ด้วยประการฉะนี้
 

พอเขียนไปได้ 2-3 ตอน ผมก็มานั่งนึกๆ ดูใหม่ คราวนี้จริงจังมากขึ้น เริ่มวางพล็อตเรื่องไปจนจบแบบคร่าวๆ และในระหว่างนั้น น้องแจม ก็ได้เข้ามา แจมเป็นรุ่นน้อง ม.เกษตรอีกแล้ว เข้ามาปี 1 คณะสัตวแพทย์ เธอถามผมใน MSN (อีกแล้วเช่นกัน) ว่า ให้แจมเป็นนางเอกนะ ... ตอนนั้น ผมไม่ได้คิดเรื่องนางเอกไว้เลย แต่พอแจมพูดขึ้น ผมก็วางพล็อตใหม่ทันที แจมอยากเรียนไอคิโด เพราะเคยอ่านในการ์ตูนแล้วมันเท่ดี ชอบที่สามารถทุ่มยูโดสายดำได้ และพระเอกในการ์ตูนก็หล่อซะ ด้วยความประทับใจนี้ และความบังเอิญหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ รุตก็เป็นประธานชมรมไอคิโดของเกษตรอยู่พอดี เรื่องราวทั้งหมดก็ทำให้เราได้มาเจอกัน เพื่อพาเธอไปเรียนไอคิโดกับรุต และนางเอกในเรื่องก็ใช้วิชาไอคิโดเช่นกัน
 

หลักใหญ่ใจความของเรื่องดินแดนอ้วนพีนั้น ก็อยู่ที่ว่า เป็นการล้อเลียนสภาพบ้านเมืองของประเทศ ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ปี 40 เป็นต้นมา โดยไม่ได้เจาะลงในรายละเอียดมากนัก เป็นการมองในภาพรวมและจับมาล้อเล่นกันซะมากกว่า หยิบเอาประเด็นหลายๆ ประเด็นเข้ามาในเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น "ชุมชนคนเคยรวย" ที่เอามาเป็น "ชุมชนหมูเคยรวย" และก็กลายเป็น "พรรคกระยาจก" ในที่สุด หรือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับม็อบต่างๆ โครงการเมาไม่ขับ รถไฟฟ้า ฯลฯ ทั้งหมดต่างเข้ามาอยู่ในเรื่องที่เขียนแนวหนังจีนกำลังภายใน พระเอกถือกระบี่ บ้านเมืองอยู่ในยุคเดียวกับที่เคยดูในหนังจีน
 

โดยเฉพาะหมาจิ้งจอกตัวนั้น จิ้งจอกเป็นตัวแทนของความเจ้าเล่ห์ การแปลงร่างได้ของมันสื่อถึงหน้ากากที่คนใส่อยู่ คนสามารถใส่หน้ากากอะไรก็ได้ตามแต่ตนจะเลือก แต่ถ้าข้างในเป็นคนเจ้าเล่ห์แล้ว ทุกอย่างก็ที่ทำลงไปย่อมไม่เกิดผลดีกับใคร ในเรื่อง จิ้งจอกได้แปลงร่างมาเป็นพระราชาในดินแดนอ้วนพี ทำให้ชาวอ้วนพีเดือดร้อน นั่นหมายถึงว่า การที่เรามีผู้ปกครองที่ไม่ดี บ้านเมืองก็จะเกิดความหายนะขึ้นได้ หางของหมาจิ้งจอกที่โรบิน อู๊ดตัดตอนท้ายเรื่อง ก็หมายถึงเบื้องหลังของคนเจ้าเล่ห์ เมื่อคนอื่นเห็นแล้วว่า เบื้องหลังของใครเป็นแบบไหน ก็จะพบความจริงที่ซ่อนไว้ เหมือนกับที่ได้เห็นหางของหมาจิ้งจอกนั่นเอง
 

ตัวละครก็ได้นำชื่อคนดังบางคนมาล้อเลียน อย่าง ไทเกอร์ อู๊ด, ไทธนา อู๊ด โดยเฉพาะชื่อพระเอก โรบิน อู๊ด ที่เป็นเหมือนโรบินฮูดที่คอยปล้นคนรวย และเอาเงินมาแจกคนจนของฝรั่งเขา มีพรรคกระยาจกแบบในหนังจีน มีสามทหารหมูที่มาจากสามทหารเสือ อัศวินโต๊ะจีน (อัศวินโต๊ะกลม)
 

(ตัวละครทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าของชื่อจริงๆ แต่อย่างใด)

สุดท้าย ขอขอบคุณบุคคลที่ทำให้เกิดเรื่องราวในดินแดนอ้วนพีทุกคน

น้องกิฟท์
ขอบคุณสำหรับแรงฮึด ที่ทำให้พี่ได้เขียนเรื่องนี้เป็นตอนแรก ระยะทางหมื่นลี้ ถ้าไม่เริ่มที่ก้าวแรกก็คงไปไม่ถึง

พี่ดิว
สำหรับคอมเม้นท์นั้น ที่ทำให้ผมหยิบเอาดินแดนอ้วนพีมาเขียนอีกครั้ง และทำให้ผมได้รู้ว่า ความไร้สาระของผมก็มีประโยชน์เหมือนกัน

น้องซี กับน้องเน็ท และเพื่อนร่วมแก๊งค์อีก 1 คน จำชื่อไม่ได้
ขอบคุณสำหรับ concept สามทหารหมูของน้องมากๆ น้องทั้งสามรูปร่างหน้าตาเหมือนสามทหารหมูในเรื่องมากๆ

น้องแจม
ขอบคุณสำหรับการเป็นนางเอกในหนังสือเล่มแรกในชีวิตของพี่ มาถึงตรงนี้ ขอแก้ข่าวเรื่องน้องแจมอ้วนด้วยว่า น้องแจมได้เข้าโครงการ "ผอมมาก็อ้วนไป" ของผม เพื่อให้เป็นตัวละครในเรื่องได้ เพราะจริงๆ แล้วน้องแจมไม่ได้อ้วนเลย แถมยังน่ารักซะอีกด้วย

กุลยา ดวงมณี (น้องสาวภาคปรัชญา ม.เกษตร เพื่อนของรุต)
ขอบคุณสำหรับตำแหน่งนางงามที่กุลได้รับมา ทั้งรองมิสไทยแลนด์เวิร์ลปี 45 และนางงามผิวเนียนจากการประกวดมิสไชนิสอินเตอร์ปีเดียวกัน พี่เอาตำแหน่งของน้องไปเปลี่ยนเป็นรองธิดาอ้วนพี กับนางงามผิวเนียนในการประกวดธิดาสรรพสัตว์โลก เป็นตำแหน่งของนางเอกในเรื่อง

รุต
ขอบคุณสำหรับมุขที่ยิงกันอุตลุต ทุกครั้งที่เราเจอกัน และพล็อตเรื่องบางตอน และที่สำคัญที่สุด เขาเป็นต้นคิดเรื่องท่านผู้เฒ่าตาขาว (ตอนแรกจะใช้ชื่อว่า ท่านผู้เฒ่าคากิ)

และที่ขาดไม่ได้ ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านดินแดนอ้วนพี ทั้งใน emotionway, ใน etaBO Diary ไดอารีสีรุ้ง และในเวบรุ่น ทั้งที่คอมเม้นท์และไม่ได้คอมเม้นท์ไว้ ... คุณคือกำลังใจอันยิ่งใหญ่เหมือนกับพุงโตๆ ของตัวละครในเรื่องเลย ขอบคุณจริงๆ

 

 

 
 
   

Copyright © 2004 SSSNS Universe

Hit Counter